"ลุลา" ศิลปินสาวครีเอทีฟ ให้เวลาพิสูจน์ความเป็นมืออาชีพ


หากพูดถึงแนวเพลง “บอสซาโนว่า” ในประเทศไทย มีศิลปินเพียงไม่กี่คนที่สามารถร้องเพลงสไตล์นี้ได้โดดเด่น หนึ่งในนั้นคือศิลปินสาว “ลุลา” หรือ “ตุ๊กตา-กันยารัตน์ ติยะพรไชย” วันเวลาผ่านไปแต่ ลุลาไม่หยุดนิ่งอยู่ที่แนวเพลงเดิม

หากพูดถึงแนวเพลง “บอสซาโนว่า” ในประเทศไทย มีศิลปินเพียงไม่กี่คนที่สามารถร้องเพลงสไตล์นี้ได้โดดเด่น หนึ่งในนั้นคือศิลปินสาว “ลุลา” หรือ “ตุ๊กตา-กันยารัตน์ ติยะพรไชย” วันเวลาผ่านไปแต่
ลุลาไม่หยุดนิ่งอยู่ที่แนวเพลงเดิม เพราะเธอเดินหน้าถ่ายทอดผลงานเพลงที่มีรสชาติหลากหลาย จนได้รับการยอมรับจากแฟน ๆ โดยเฉพาะสองซิงเกิ้ลล่าสุดในปีนี้อย่างเพลง “ตัวปลอม” และ “เรื่องที่ขอ” นั้น กำลังไต่ขึ้นชาร์ตเพลงฮิตทางคลื่นวิทยุและสตรีมมิ่งต่าง ๆ ซะด้วย วันนี้ “เดอะมูน” จึงนัดแนะสาวลุลามานั่งพูดคุยสบาย ๆ ถึงการทำงานในอัลบั้มใหม่ครั้งนี้ รวมทั้งประสบการณ์บนเส้นทางของนักร้องที่เผลอแป๊บเดียว 10 ปี แล้วเป็นอย่างไรบ้างติดตามกันเลยค่า

ตอนนี้ลุลามีสองซิงเกิ้ลที่เพิ่งปล่อยออกมาเล่าให้เราฟังหน่อย?

“ใช่ค่ะ ซิงเกิ้ลแรกคือเพลง “ตัวปลอม” ซึ่งเป็นเพลงของพี่ ๆ วงไฮดร้ามาทำใหม่ ลุลาจะเป็นคนถ่ายทอดในมุมมองของฝั่งผู้หญิง ที่มีความคิดที่ผู้หญิงเก็บเอาไว้ แต่ผู้ชายไม่เข้าใจ ส่วนวงโปเตโต้จะถ่ายทอดในมุมมองของผู้ชายกวน ๆ หลายคนบอกว่าตรงใจ เพราะคู่รักมักมีเรื่องความต่างแบบนี้อยู่ ส่วนอีกเพลงที่เพิ่งปล่อยล่าสุดคือ “เรื่องที่ขอ” ถ่ายทอดเรื่องราวของผู้หญิงที่ทำเรื่องบางเรื่องผิดพลาดโดยไม่คิด สุดท้ายไม่สามารถเรียกคืนได้ แฟน ๆ แชร์ และพูดถึงเอ็มวีเยอะมาก บางคนดูแล้วอินร้องไห้ก็มี ถือว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ลุลาเปิดตัวเพลงอกหักฝึกหัด ไม่ค่อยได้ร้องแนวนี้เลย ก็พยายามถ่ายทอดออกมาสำหรับคนอกหักทุกคน ได้พี่โตน วงโซฟา แต่งเนื้อร้องให้ค่ะ”

การเป็นนักร้องคือความฝันของเราตั้งแต่เริ่มต้นเลยหรือเปล่า?

“เราเป็นเด็กมีความฝันหลายอย่างมาก แต่อยากเป็นนักร้องที่สุด ตอน ม.ปลาย มีค่ายติดต่อให้เซ็นสัญญา แต่คุณแม่ไม่อนุญาต จนเรียนจบปริญญาตรี เอ็กซิบิชั่น ดีไซน์ ก็มาทำงานออกแบบอีเวนต์ แต่ความอยากเป็นนักร้องไม่ได้หายไป ระหว่างที่ทำงานประจำก็แอบส่งเดโม่มาที่แกรมมี่ สมัยนั้นยามตึกดุมาก ถ้าบอกว่าเอาเดโม่มาส่งต้องไม่ให้ขึ้นตึกแน่เลยโกหกว่ามาส่งเอกสาร น้อง ๆ ไม่ควรทำตามนะคะ(หัวเราะ) แล้วก็แนะนำตัวทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ จ่าหน้าซองถึงพี่สุเมธ ค่ายจีนี่ เรคคอร์ด เพราะเราชอบวงพี่เขา วันรุ่งขึ้นพี่เขาโทรฯ ติดต่อให้เราไปทำสกรีนเทสต์ ได้ทำอัลบั้ม “ทูบีคัมวัน” ตอนอายุประมาณ 23 ปีค่ะ”

แล้วจุดเริ่มต้นของการเป็นลุลาล่ะมีที่มายังไง?

“พอเป็นวงทูบีคัมวันออกมาได้ 2 ปี ก็เริ่มรู้สึกเฉย ๆ กับการเป็นนักร้อง เพราะไม่รู้ว่าแนวเพลงเราเป็นยังไงเลยเลิกสัญญา กลับไปทำงานประจำ แต่พี่โตนโซฟาเขาทิ้งท้ายว่าให้ลองหาเพลงแนวบอสซาโนว่ามาฟัง เพราะดูเหมาะกับเรา ถ้านับเฉพาะตอนเป็นวง “ทูบีคัมวัน” ก็ 10 กว่าปีแล้วนะถ้าใครจำเสียงเราได้(ยิ้ม) แต่ถ้าในชื่อ “ลุลา” ก็ประมาณ 9 ปีค่ะ คนอาจจะไม่รู้ว่าชื่อ “ลุลา” ไม่ใช่ชื่อจริง เพราะชื่อเล่นจริง ๆ ชื่อ “ตุ๊กตา” แต่ชื่อลุลาเกิดขึ้นเพราะเจ้านายเรียกชื่อไม่ชัด คนได้ยินเป็น “ลุลา” เลยเรียกเราว่าลุลาทั้งบริษัทเลย(หัวเราะ) ถึงทำงานประจำก็ยังแอบไปร้องเพลงกลางคืน จนเจอพี่โอ๋ ซีเปีย ได้โอกาสทำอัลบั้ม “บอสซ่า บลอสซั่ม 2” กับค่ายสนามหลวงมิวสิค เราไม่อยากใช้ชื่อ “ตุ๊กตา ทูบีคัมวัน” เพราะมันซ้ำซ้อนอันเดิม เลยใช้ชื่อ “ลุลา” ตอนออกเพลง “ตุ๊กตาหน้ารถ” ซึ่งเป็นเพลงแนวบอสซาโนว่า ชื่อและสไตล์ของเพลงไปด้วยกันก็เลยขอเก็บชื่อลุลาไว้ จนเป็นลุลามาถึงทุกวันนี้ค่ะ แต่ก็ใช่ว่าจะราบรื่นนะ เพราะแนวบอสซาโนว่าเป็นเรื่องราวแปลกใหม่ในวงการเพลง แรก ๆ จะโดนกระแสกระหน่ำมากมาย ก็คิดแค่ว่าถ้าไม่ดีก็เจ๊งไปเลย หลังจากนั้นคนก็เริ่มชินและเข้าใจเทคนิคการเป็นบอสซาโนว่ามากขึ้นและเราก็พัฒนาตัวเองมาเรื่อย ๆ จนมีแนวทางที่ชัดเจนค่ะ”

ในการทำเพลงออกมาแต่ละเพลง เรามีส่วนร่วมยังไงบ้าง?

“เราเป็นสายครีเอทีฟ ฉะนั้นเวลาทำเพลงจะคิดมาก่อนแล้วว่าอยากได้เพลงแบบไหน พูดถึงเรื่องอะไร รวมถึงลุคเสื้อผ้าหน้าผมของเรา หลังจากนั้นจึงแบ่งทีมกันทำงาน ทีมเพลงเราต้องเข้าไปคุยไปปรับให้ออกมาดีที่สุด ต้องมีการทำงานแบบทีมเวิร์ก จริง ๆ เหมือนตัวลุลาเป็นแกนกลาง เวลาคุยงานจะละเอียดถึงขนาดต้องมีเพาเวอร์พอยท์เลย เพราะเราจะได้เข้าใจตรงกัน บางอัลบั้มก็แต่งเพลงเอง ทำโลโก้เองด้วยเพื่อให้ได้งานที่ดีที่สุดค่ะ” .

การทำงานแบบไหนบ่งบอกความเป็นลุลาได้ดี?

“ลุลาจะไม่ค่อยทำงานที่คนอื่นเคยทำแล้ว เป็นนิสัยมาตั้งแต่เด็กว่าไม่ค่อยอยากทำอะไรซ้ำคนอื่น ถ้าเราจะทำเหมือนคนอื่นเราจะทำไปทำไม และถ้าทำอะไรแล้วเราต้องทำให้สุด จะไม่ทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ แต่ก็ต้องเป็นสิ่งที่เราถนัดนะ เพราะถ้าเป็นสิ่งที่คนอื่นมาจับใส่ให้ทำ งานออกไปแล้วไม่ดี คนก็ดูรู้ว่ามันไม่ใช่ แต่ถ้าเราต้องทำในสิ่งที่เราไม่ถนัดจริง ๆ เราก็จะศึกษาเรื่องนั้นไปถึงแก่นลึก ๆ เลยเพื่อจะได้ทำออกมาดีที่สุด คือ เราออกแนวเพอร์เฟคชั่นนิสต์ค่ะ”

ตั้งแต่เป็น ลุลา เต็มตัว เราก็ไม่เคยห่างหายไปจากวงการเลย?

“เรามีความคิดตลอดนะว่าจะเลิกเป็นนักร้อง เพราะว่าอาชีพศิลปิน การทำงานศิลปะและดนตรีในบ้านเราถือเป็นของฟรีมานานแล้ว ไม่มีใครยอมเสียเงินเพื่อดูงานศิลปะหรือฟังเพลง ซึ่งตรงนี้เราทำใจได้นานแล้ว รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ไม่มั่นคง คงไม่มีใครอยากทำงานที่ไม่มั่นคง แต่เราต้องปรับตัวและยอมรับว่าอาชีพนี้สักวันมันต้องสิ้นสุดสำหรับเรา ดังนั้นทุกครั้งที่เรารับมอบหมายให้ทำเพลงใหม่ เราก็จะคิดว่าเพลงนั้นคือเพลงสุดท้ายของเรา เราจะทำออกมาแบบเต็มที่และเป็นตัวของตัวเองสูงค่ะ”

ทุกครั้งที่อยากเลิกเป็นนักร้อง อะไรดึงเรากลับมาให้อดทนอยู่ในสายอาชีพนี้?

“เราคิดถึงความสุขที่เราได้รับจากการทำเพลง ทำศิลปะที่รัก และความสุขที่ได้รับจากการได้เห็นคนฟังเพลงเรา คนรักเพลงเราและร้องเพลงเราได้ ทำให้รู้สึกมีพลังมีความสุขมาก ๆ สองอย่างนี้คือสิ่งที่รั้งเราเอาไว้ทุกครั้งที่เราถอดใจค่ะ ยอมรับว่าหลายครั้งก็มีน้อยใจ แต่สำหรับเราการเป็นศิลปินคือความไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าเพลงออกมาจะดังหรือไม่ดัง จะถูกวิจารณ์ไปในด้านไหนเราต้องไม่ยอมแพ้ การได้คนดูเป็นล้านวิวไม่ใช่คำตอบของการเป็นคนดัง แล้วเมื่อเป็นคนดังแล้วเราต้องมีความสม่ำเสมอในการพัฒนาสิ่งที่เรารักค่ะ”

มองอนาคตตัวเองในระยะยาวไว้ยังไงบ้าง?

“ตอนนี้ 80 เปอร์เซ็นต์ก็ทำงานเพลง แต่ที่เหลือก็แบ่งเวลาไปทำในสิ่งอื่น ๆ ที่เราชอบเหมือนกัน ในอนาคตเมื่อเราอายุมากขึ้นเราอาจจะทำงานได้น้อยลง ร้องเพลงได้เพราะน้อยลง เพราะอาชีพนี้เสียงคือสิ่งสำคัญ เราอาจจะสลับกันให้ร้องเพลงเหลือ 20 เปอร์เซ็นต์ ทำแค่ให้เราได้ชุ่มชื่นใจที่ได้ทำในสิ่งที่เรารัก ที่เหลือก็คงจะขยายงานอดิเรกที่เราชอบมาขยายเป็นงานประจำ เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความชอบของเราค่ะ”

ฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ติดตามเราหน่อย?

“ขอบคุณทุก ๆ คนมากนะคะที่คอยติดตามให้กำลังใจกันตลอด ดีใจเวลามีคนเดินเข้ามาทักทายกัน ขอบคุณทุก ๆ วันที่ทำให้ลุลาได้เจอทุกคน อยากให้ติดตามทุก ๆ ผลงานเพลงไปนาน ๆ ลุลาก็จะตั้งใจทำเพลงออกมาให้ดีที่สุดต่อไปนะคะ”

จากการพูดคุยกับ “ลุลา” เราสัมผัสได้ถึงความตั้งใจ ในการมุ่งมั่นเพื่อทำในสิ่งที่ตัวเองรักอย่างการร้องเพลง แม้จะท้อบ้าง เหนื่อยบ้าง แต่เพราะได้กำลังใจจากแฟนเพลงที่ชอบผลงาน ทำให้เธอยังอยู่ตรงนี้ได้อย่างมีความสุข ยังไงฝากให้กำลังใจสาวเก่งคนนี้ไปนาน ๆ ด้วยนะคะ.

Share this

Related Posts

Previous
Next Post »