เข้าพิธีวิวาห์กันเป็นที่เรียบร้อยสำหรับคู่รัก "พอลลี่ - พรพรรณสิทธินววิธ" อายุ 28 ปีกับแฟนหนุ่มนอกวงการ "เบนซ์ - รัฐพงษ์รัตนหิรัญญา" อายุ 36 ปีโดยทั้งคู่ได้ควงคู่แถลงข่าวที่เบเน ดิกซ์สตูดิโอซอยโยธินพัฒนา 11 ท่ามกลางความยินดีของครอบครัวญาติสนิทและเพื่อนพ้องที่มาร่วมงานกันอย่างอบอุ่นอาทินทพนายางกูร, ชิปปี้ - ศิรินทร์ปรีดียานนท์, แซมมี่ - ดลลชาภู วิจารย์เคาวเวลล์ ฯลฯ ทั้งนี้บรรยากาศในงานถูกประดับประดาด้วยดอกไม้สีขาวสะอาดหลากหลายชนิดโดยเจ้าสาวปรากฏตัวต่อหน้าสื่อในชุดแต่งงานสีขาวยาวลวดลายลูกไม้อ่อนหวานพร้อมรวบผมครึ่งศีรษะและสวมรองเท้าส้นสูงสีขาวด้านฝ่าย ชายมาในชุดสูททักซิโด้สีน้ำเงินเข้มทั้งชุดสวมรองเท้าหนังสีดำ ..
พอลลี่เผยว่า "รู้จักกับพี่เบนซ์มา 3 ปีแล้วแต่เราไม่ค่อยได้เจอหรือคุยกันซึ่งเราสองคนเพิ่งมาสนิทกันจริงๆเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาพอมาสนิทกันครั้งนี้คุยแล้วก็รู้สึกดีมากเวลา อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจพี่เบนซ์เองเขาพูดเรื่องแต่งงานมาตั้งแต่ 3 เดือนแรกที่มาสนิทกันแล้วแต่เรารู้สึกว่ามันเร็วเกินไปตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาจริงจังเพราะพี่เขาพูดถึงขั้นมีลูกเราเลยเริ่มรู้ว่าเขาจริงจังกับ เราหลังจากนั้นไม่นานเขาก็เซอร์ไพร้ส์ขอเราแต่งงานที่แกลอรี่แถวสุขุมวิทซึ่งเป็นสถานที่ที่พอลลี่และพี่เบนซ์มีความรู้สึกดีต่อกันซึ่งตอนที่ไปบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าจะแต่งงานท่านก็ ตกใจเพราะระยะเวลาที่เราคบกันไม่นานทางด้านคุณพ่อคุณแม่พี่เบนซ์เขาเห็นด้วยและสนับสนุนและหาฤกษ์งานแต่งมาให้จริงๆก่อนหน้านี้เราได้มีพิธีหมั้นไปแล้วเมื่อวันที่ 29 พ. ย. ที่ผ่าน มา แต่เรายังไม่ได้มีการจดทะเบียนซึ่งเรามีแผนว่าจะจดหลังจากที่กลับมาจากฮันนีมูนที่อียิปต์ซึ่งเราจะไปทั้งหมด 12 วันช่วงเคาท์ดาวน์ปีใหม่พอดีที่เราเลือกไปอียิปต์เพราะมันตื่นเต้นมี มนต์ขลังส่วนสินสอดเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่คุยกันแหวนเพชรกี่กะรัตพอลลี่ก็ไม่รู้ที่เราได้ส่วนตัวเป็นเครื่องประดับมากกว่าและเรือนหอของเราจะเป็นคอนโดที่สาทรกับเรื่องที่คนมองว่าเราแต่งงานสายฟ้าแล่บพอลลี่ ยังไม่มีน้องถ้ามีก็เป็นเรื่องน่ายินดีเพราะทางบ้านพี่เบนซ์เขาก็อยากได้หลานมาก แต่เท่าที่เราคุยกันไว้ยังไม่อยากปล่อยให้มีน้องตอนนี้เรายังอยากสนุกกับชีวิตอยู่ซึ่งหลังจากแต่งงานพอลลี่ ก็ยังรับงานในวงการอยู่เพราะเป็นงานที่เรารักคำมั่นสัญญาที่ให้กับพี่เบนซ์คือที่ผ่านมาพอลลี่เคยมีความรักทั้งผิดหวังและสมหวัง แต่วันนี้เราเป็นครอบครัวแล้วเราให้คำมั่นว่าจะรักและดูแล พี่เบนซ์ไปตลอดและเงินที่ได้จากการใส่ซองของแขกที่มาร่วมงานในวันนี้จะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิต่างๆเพื่อเป็นการทำบุญ " .
ด้านเบนซ์กล่าวต่อว่า "จริงๆผมรู้สึกว่าพอลลี่เป็นคนใจดีน่ารักพอคบกันเราก็ต่างเป็นตัวของตัวเองอยู่เราใช้เวลาไม่มากในการปรับจูนเข้าหากันที่ผมขอเขาแต่งงานใน 3 เดือน แรกเพราะผมคิดว่าชีวิตเราไม่ได้ยาวพอได้เจอคนที่เรารู้สึกว่าเป็นคนที่เราจะใช้ชีวิตด้วยเดินทางไปด้วยกันในเส้นทางของชีวิตเราก็ไม่ควรเสียเวลาอีกหลังแต่งงานวางแผนชีวิตไว้ว่าเราจะใช้ชีวิต ให้เต็มที่เรื่องลูกเราก็ไม่ได้รีบ แต่ถ้าเกิดมาเราก็ยินดีสำหรับพิธีในวันนี้เป็นการแต่งงานแบบคริสต์เพราะเป็นพิธีที่สวยงามไม่มีธีมไม่มีสีเพราะเราไม่อยากให้ทุกคนสิ้นเปลืองซื้อเสื้อผ้าใหม่เลยให้ใส่อะไร ก็ได้ตามใจนอกจากนี้จริงๆแล้วปลายปีนี้ผมตั้งใจจะบวช แต่ได้เป็นพิธีแต่งงานแทนผมเองมีการคุยกับพอลลี่เหมือนกันว่าหลังแต่งงานจะขอบวชสัก 2 อาทิตย์ส่วนคำสัญญาที่เราให้กันคือทำวันนี้ ให้ดีที่สุดเพื่อเราทั้งสองคนและอีกข้อหนึ่งถึงโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่เราก็ยังมีเราตลอดไป "