"บุ๋ม - ปนัดดา"พร้อมแฟนหนุ่มตั้งโต๊ะแถลงเปิดใจปมเช่าพื้นที่นางเอกสาว "เจนี่" แต่ถูกกั้นที่จอดรถเฉยยันมีปัญหาแค่เรื่องบริการลูกค้าส่วนเรื่องค่าเช่าคุยแล้วแต่อีกฝ่ายไม่มีฟีดแบค หากถึงขีดสุดยอมออก แต่ขอเงินค่าก่อสร้างสถานที่ 3 ล้าน
จากกรณีที่ดาราสาว "บุ๋ม - ปนัดดา" ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านอินสตาแกรม @boompanadda ถึงนักแสดงสาว "เจนี่เทียนโพธิ์สุวรรณ" ว่าไม่แฟร์ในการทำธุรกิจร่วมกัน หลังเช่าพื้นที่นางเอกสาวทั้งธุรกิจเปิดศูนย์ออกกำลังกาย แต่ดันถูกกั้นที่จอดรถไว้ให้แค่ลูกค้าของร้าน 911 โดย JT และยังระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยได้เจรจาอยู่หลายครั้งแล้วแต่ก็เหมือนเดิม ขณะเดียวกันก็มีคลิปว่อนโลกออนไลน์เป็นชายคล้าย "เอก - เอกริน" สามีของบุ๋ม เข้ามาเจรจาอย่างดุเดือดกับพนักงานของร้านนางเอกสาว ต่อมาเอก ก็ได้ชี้แจงสาเหตุที่มาของเหตุการณ์ในคลิป พร้อมทั้งระบุเรื่องที่มีผู้อ้างว่าทางบุ๋มไม่ได้จ่ายค่าเช่า เนื่องจากยังไม่ได้รับหนังสือสัญญาจากอีกฝ่าย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดบุ๋ม - ปนัดดา ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว ณ สแมชยิมถนนเกษตร - นวมินทร์ว่า "ต้องบอกก่อนว่าต้นกำเนิดของสถานที่นี้จริงๆมีบุ๋ม กับรุ่นน้องบุ๋มชื่อท็อป เขาเป็นนักแสดงเรื่องอังกอร์มาจะเริ่มต้นด้วยกันจุด และมีเจนี่มาขอร่วมหุ้นที่สามเลยทำให้ตอนแรกคุยกันว่าจะเป็นหุ้นส่วนสามคน ฝั่งท็อปอยากเปิดสอนเทควันโดเจนี่เปิดมวยเราเปิดยิมโดยติดต่อผู้เช่าเคลียร์สัญญาเช่า ขั้นแรกซึ่งเห็นว่าเป็นเทควันโดและมวยใช้พื้นที่เยอะ เราเลยบอกว่าให้เช่าพื้นที่ใหญ่ไปส่วนบุ๋มลงทุนอุปกรณ์ไป 10 กว่าล้าน ของท็อปและเจนี่มีแต่ห้องเปล่าและเวทีมวยลงทุนน้อยกว่าบุ๋ม ซึ่งถ้าจะให้แฟร์ๆก็ต้องเอาเงินส่วนนึงไปจ่ายค่าเช่าที่ ส่วนเราลงเครื่องอุปกรณ์เป็นการทำงานร่วมกัน ซึ่งท็อปกับเจนี่เป็นผู้ต่อสัญญาเช่าที่คือเรามีสัญญาเช่าเก่าระหว่างสแมชยิม กับท๊อปและเจนี่ซึ่งมีลายเซ็นสามฝ่ายและเราได้ชำระมัดจำค่าเช่าไปแล้ว 3 เดือน ซึ่งเป็นการตอบคำถามที่หลายคนถามว่า ถ้าไม่มีสัญญาแล้วบุ๋มกล้าลงทุนได้อย่างไร10 กว่าล้านเราไม่ใช่ไม่มีและไม่ได้ทำอะไรผิดขั้นตอนเด็ดขาดทุกอย่างเรามีหุ้นส่วนมีที่ปรึกษาทางกฏหมาย เพียงแต่ปัญหาอยู่ที่ว่าหลังเราเซ็นสัญญาอันนี้แล้ว ท็อปกับเจนี่เขามีปัญหากัน เจนี่เลยซื้อหุ้นของท็อปกลับคืนมาแต่เพียงผู้เดียว ตัวบุ๋มไม่พูดอะไรทั้งนั้นค่ะ คุณไม่พูดถึงเราก็ไม่ว่าอะไรทั้งๆที่เริ่มต้นมาด้วยกัน ซึ่งถ้าเราเป็นแค่ผู้เช่าจริงๆตั้งแต่แรก เราจะจ่ายค่าก่อสร้างอาคารทำไมอีก 3 ล้านบาทร่วมกับเขาคือถ้าสแมชยิมเป็นแค่ผู้เช่าบุ๋มแค่มาตกแต่งภายในก็พอ แต่ทำไมบุ๋มต้องมาสร้างทั้งตัวอาคารด้วยนั่นเพราะเราลงทุนร่วมกัน เพียงแต่ตัวสัญญาเราดันยอมเป็นผู้เช่าจากเขาอีกที นี่คือข้อผิดพลาดหนึ่ง สองเรื่องที่เขาผิดใจกันระหว่างท๊อปกับเจนี่มันคือจุดเปลี่ยน แต่อุปกรณ์เราสั่งมาแล้วจากอเมริกาโดยตรง ถึงแม้เราจะรู้ว่าเขามีปัญหากันแต่เราก็ต้องเอาของลง ตอนนั้นเราก็มีเสนอให้เขาซื้อพื้นที่คืนไป แต่เขาไม่ตกลงจะให้เราเช่าต่อก็เลยมาคุยกันใหม่ และเขาก็ขอเซ็นสัญญาใหม่เพราะสัญญาเก่าถือว่าเป็นโมฆะไปแล้ว แต่จนบัดนี้ยังไม่ได้สัญญาเลยเราทวงสัญญาตั้งแต่เดือน เม.ย. จนถึงมิ. ย ทวงทุกคนจริงๆ แต่ยังไม่ได้สัญญาใหม่ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากจ่าย แต่ถ้าทำงานบริษัทจะทราบว่าการจ่ายเช็คจะต้องมีสัญญาแนบคือคนอยากจ่ายเดินไปหาก็แล้ว ไลน์ถามก็แล้ว เดินหาทุกคนเพื่อจะจ่ายเงินให้มันถูกต้องแต่ก็ยังไม่ได้ แถมยังมีปัญหาเกิดขึ้นรายวันเรื่องที่จอดรถ"
"บอกตามตรงเครียดมาหลายวันแล้วมันก็เริ่มไม่ไหวแล้วด้วย (น้ำตาคลอ) บุ๋มไม่อยากร้องไห้ด้วยเดี๋ยวจะหาว่าดราม่า ซึ่งวันนี้ เราอยากจะแก้ปัญหาจริงๆเลยตกลงกันว่าขึ้นไอจีเถอะไม่ไหวแล้ว ทำอย่างไรก็ได้ให้ได้แอ็คชั่นกลับมา ให้เขาสนใจเราบ้างซึ่งล่าสุดมีลูกค้าเคยเห็นเหตุการณ์ว่า บุ๋มเข้าไปคุยกับแม่เจนี่ สถานที่เดียวกันกับที่ปล่อยคลิปที่พูดถึงกันออกมา เราก็คุยดี แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขอีกอย่างบุ๋มรู้สึกเสียใจ และทราบว่าทางไนน์วันวันต้องทราบด้วย เพราะมันคือกล้องวงจรปิด ลูกค้าเราเคยมีปัญหาเรื่องกันชนรถพัง ขอไปดูกล้องวงจรปิดเขาไม่ให้ดูบอกดูไม่เป็น ดังนั้นถ้าจะบอกว่าไม่รู้เรื่องคงไม่ได้แล้ว จริงๆบุ๋มเสียใจเพราะคนที่เจอหน้ากัน ทำไมไม่เดินมาคุยไม่เดินมาเคลียร์บุ๋มถึงขนาดไลน์หาทุกคนแแม้กระทั้งคุณกึ้ง - เฉลิมชัย แต่กลายเป็นว่าเขาเงียบตลอดแล้วอย่างในคลิปปิดเสียงทำไม และมีการส่งให้นักข่าว เมื่อวานบุ๋มได้คุยนักข่าวสื่อหนึ่งพยายามถามข้อความให้ชัดเจนว่าเป็นใครกันแน่ที่ส่งคลิปมา ทางสื่อก็บอกว่าต้องปิดแหล่งข่าว แต่เท่าที่ทราบเขาบอกว่ามีคนส่งคลิปมาให้ แล้วก็เล่าเหตุการณ์ว่าคุณเอกทำร้ายร่างกายผลักจนกระเด็นอย่างที่เห็น และมีการไปแจ้งความ ดีนะที่โทรไปเช็คที่สน.ไม่มีการแจ้งความแต่อย่างใด บุ๋มก็รู้สึกว่าทำไมต้องโกหกนักข่าวขนาดนี้ ซึ่งเนื้อหาในข่าวที่บอกว่าเราค้างค่าเช่าสามเดือน ไม่จ่ายค่าส่วนกลาง ไม่จ่ายค่าที่จอดรถจะพิจารณาให้ไม่ต่อสัญญา ถามว่าสัญญาอะไรทุกวันนี้ยังไม่ได้สัญญา และไม่ได้สัญญาจะไปจ่ายค่าเช่าได้อย่างไร และค่ามัดจำที่จ่ายไปแล้วเราไม่ได้มีเจตนาหนีอะไรเลย อยู่ตลอดเงินก็เตรียมไว้ทวงสัญญาก็ไม่ให้ จริงๆต้องบอกว่าการให้ข่าวแบบนี้มันเสียหายต่อธุรกิจของเรา และเสียหายต่อภาพลักษณ์ของเรามากด้วย และประเด็นที่เขาบอกว่าสแมชยิมเปิดซุมบ้าซ้ำซ้อนให้ลองไปดูในแฟนเพจหรือถามลูกค้าได้ เราไม่มีคลาสซุมบ้าเลย จริงๆต้องบอกว่าฟิตเนสเรามีก่อนคลาสของเขา เพราะตอนแรกเขาจะทำเป็นเทควันโด ซึ่งเราก็มีห้องไว้สำหรับเปิดคลาสเหมือนกัน แต่ต้องดูก่อนว่าทางนั้นจะเปิดคลาสอะไรจะได้ไม่ชนกัน แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่บอก
“จริงๆการให้ข่าวแบบนี้พูดตามตรงมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องถูกไหมและเราก็รู้ด้วยว่าใครเป็นคนพูด แต่เราขอร้องแหละค่ะทำกันขนาดนี้เพื่ออะไร การทำธุรกิจมันน่าจะช่วยดูแลลูกค้ากันไม่ใช่เหรอ ที่เราตั้งใจตั้งแต่แรกมันคือการทำธุรกิจเพื่อเสริมกันและกันไม่ใช่แล้วทำไมต้องมามองเป็นศัตรูทำคู่แข่งกัน วันนี้สิ่งที่ต้องการก็คือทำข้อตกลงกันค่ะ สัญญามาเลยก็ได้จะจ่ายตังค์ให้ทันทีทำตามขั้นตอนให้ถูกต้องคือถ้ามีสัญญามาจะจ่ายให้เลย 3 เดือนที่ผ่านผมมาก้อนเดียวให้เลยแค่เอาสัญญามา มีหลายๆคนจะมาด่าบุ๋มว่าออกมาโวยวายทำไมไม่มีคลาสเลยตลาด ก็เป็นแบบนี้ค่ะมันเหลือทางสุดท้ายแล้วไม่รู้จะทำยังไงเพราะเราถามทวงทุกหนทางจริงๆ จะเดินหน้ากันยังไงก็ว่ามา แต่ ณ วันนี้คุณเล่นปล่อยคลิปออกมาจงใจขนาดนี้บุ๋มขอยื่นคำขาดเลยว่าขอแค่ค่าก่อสร้างมาเถอะเราจะย้ายออก 3 ล้านบาทค่าตกแต่งเราไม่เอาสักบาทบุ๋มเองไว้ใจเขาไปนั่งกินข้าวกับเขา แต่เขาทำแบบนี้มันคืออะไรบุ๋มไม่เข้าใจบุ๋มเครียดบอกตามตรงบุ๋มเป็นลมไปเลยบุ๋มไม่เคยเป็นลมมาก่อนในชีวิต(ร้องไห้)แต่บุ๋มพร้อมเจรจากับเขาตลอดนะ ถ้ามานั่งคุยตกลงกันมันจะไม่มีปัญหาแบบนี้ แต่นี่เขาไม่คุย ซึ่งถ้ามองในมุมของคุณเอกนะเขาไม่ได้หนีอะไรหรอกแต่เขาคงไม่ว่างหรือคิดว่ามันไม่สำคัญหรืออะไรไม่รู้ คำตอบเดียวคือเขาบอกว่ารอทนายจากคุณกึ้งเท่านั้นเขาเป็นคนร่างสัญญาค่ะ”
ถามว่าวันนี้ถึงจุดแตกหักหรือยังบุ๋มกล่าวต่อว่า “คงเป็นเรื่องของฝั่งนั้นแล้วว่าจะยังไง แต่ที่คนมองว่าเขาไม่ให้สัญญาแปลว่าบีบเราไหมคือเราไม่คิดว่าเขาบีบ เขางานยุ่งคือทนายที่เขาทำอาจจะมีงานอื่นเยอะก็โอเคแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ได้สักที และสิ่งที่ไม่ชอบคือทำไมให้ข่าวบิดเบียนขนาดนั้น จริงๆบุ๋มก็แว่วมาว่าทางนั้นจะฟ้องร้องเรา คือจะฟ้องร้องเรื่องอะไรมีอะไรก็มาคุยกันคุณก็มีปัญหา ฉันก็มีปัญหาทำไมไม่คุยกันคือมาตั้งแง่บุ๋มมันไม่สนุก ฟ้องเรื่องอะไรเราต้องฟ้องคุณกลับใช่ไหมที่มองคือเราไม่ได้ผิดสัญญาเพราะสัญญามันยังไม่มีเลยและบุ๋มก็ไม่อยากมีปัญหา แต่การตัดต่อคลิปแบบนี้เราเสียหาย ทางออกก็คงต้องให้เขามาคุยดีๆยอมปรับปรุงเรื่องของการพูดและการรับลูกค้าเท่านั้นและทำสัญญาออกมาอย่างน้อยเป็นลายลักอักษร แต่ที่พูดจาไม่ดีกับลูกค้าเราสองมาตรฐานการรับรถก็โอเค ขอแค่ทำสัญญาออกมาเราก็จ่ายค่าเช่าปกติอยู่แล้ว และบุ๋มก็ขอฝากไปถึงแฟนคลับของทั้งสองฝ่าย หรือไม่ใช่แฟนคลับของเรา รวมถึงทีมเผือกต่างๆอย่าใช้คำรุนแรงกับน้องเจนี่ อย่าเอาเรื่องส่วนตัวไปก้าวก่ายกับธุรกิจค่ะ บุ๋มไหว้ล่ะ (ยกมือไหว้) ขอร้องแทนน้องเลยคือบุ๋มรู้จักกับน้อง แต่ที่ต้องการออกมาแค่อยากลุยเรื่องธุรกิจให้มันเดินหน้าเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องสนิทใจกับเจนี่และแม่บุ๋มกลัว ขอใช้คำว่ากลัวดีกว่าเพราะบุ๋มไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อ”..
ด้านเอกกล่าวว่า "สาเหตุที่เป็นปัญหาทุกวันคือผมอยู่ยิมทุกวันโดนลูกค้าตำหนิตลอดเรื่องที่จอดรถว่าทำไมขับมาก่อน แล้วเขาไม่ให้จอดแต่เตรียมที่ให้คลาสซุมบ้าแทน ผมเคยเดินไปยกกรวยจอดรถออกจะให้ลูกค้าถอยรถเข้า แต่ไม่ให้สำหรับคนทำกิจการเรื่องนี้มันทำให้กิจการพังได้เลย ผมก็ปรึกษากับเขาหลายรอบแต่ไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งเรามีหลักฐานว่าเราไปคุยกับแม่เจนี่ปรึกษาว่าจะหาพนักงานมาดูแลเรื่องรับรถ ซึ่งวันนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นมีคนมาดูแลเรื่องนี้ ขอบคุณที่มาที่นี่ไม่งั้นคงไม่มีคนดูแลเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้มีคนดูแลเรื่องรถเฉพาะของครูหนุ่ม ซึ่งครูหนุ่มเป็นคนจ้างมาส่วนตัวเฉพาะคลาสเขา จริงๆมีลูกค้าที่มาแล้วบอกว่ามาฟิตเนสเขาบอกว่าให้หาที่จอดรถเอง อีกวันหนึ่งลูกค้ามาแล้วลองบอกว่ามาต่อยมวย คนดูแลที่จอดรถก็บอกว่าจอดได้ ส่วนเรื่องคลิปคือวันนั้นมีคลาสซุมบ้า ผมรู้เลยว่าคนเยอะลูกค้าฟิตเนสเลิกเล่นประมาณทุ่มนึง แต่คลาสซุมบ้าเริ่มทุ่มครึ่ง ลูกค้าเล่นเสร็จสองรายออกไปจะกลับบ้าน ทางไนน์วันวันบอกว่ากลับไม่ได้เพราะว่ารถจอดอยู่ข้างใน ซึ่งผมมองว่าลูกค้าซุมบ้ายังไม่ได้เข้าคลาสเลย แต่มารู้ทีหลังว่าทางเขาเก็บกุญแจไว้ แต่เลื่อนไม่ได้เพราะไม่มีคนเลื่อนผมเลยโมโห แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายเขาเพราะเขาบอกลูกค้าผมว่า สองทุ่มครึ่งค่อยกลับบ้าน ก็พูดกับเขาว่าทำไมรับลูกค้าถึงพูดจาไม่ดี ทำไมให้ลูกค้ารอตั้งนานมันไม่ถูก ไม่มีอเวนิวที่ไหนหรอกเรียกให้ผู้เช่าออก ไปยืนโบกรถ เพราะเขาเคยบอกว่าเป็นลูกค้าฟิตเนสก็ไปเรียกฟิตเนสมาโบกเหนื่อยแล้ว เขายอมรับว่าพูดจริงในคลิปน่าจะมีเสียงอยู่ผมก็บอกว่าคุณพูดไม่ดีกับลูกค้าแล้วจะให้ผมพูดดีกับคุณเหรอผมเลยโกรธตามที่เห็นในคลิป "
ถ้าพูดกันตามตรงคนสามัญปกติตอนช่วงที่ทะเลาะกันเขาต้องไม่ชอบหน้ากันอยู่แล้ว และถ้าเกิดเคลียร์ปัญหากันได้ก็จะดีกันเหมือนเดิม เพียง แต่ตอนนี้มันมีปัญหากัน มันเป็นปัญหาธุรกิจไม่ใช่ปัญหาส่วนตัว ผมเองโกรธแค่เรื่องธุรกิจ ไม่ได้โกรธที่เขาทำอะไรอย่างอื่นกับผม คือโกรธแค่ว่าคุณทำไมทำกับลูกค้าผมอย่างนี้ กับแผนสำรองตอนนี้เรายังไม่มีครับเอกกล่าวทิ้งท้าย .