จู่ ๆมีแชตไลน์ของสาวนิรนามหลุดมาปล่อยข่าวว่า ก้อย - รัชวินวงศ์วิริยะไปลองชุดแต่งงานและมีการพูดคุยถึงกำหนดคลอดจนทำให้มีคนสงสัยว่าสาวก้อยนั้นจะท้องก่อนแต่งหรือเปล่า
จู่ ๆ มีแชตไลน์ของสาวนิรนามหลุดมาปล่อยข่าวว่า ก้อย - รัชวินวงศ์วิริยะไปลองชุดแต่งงานและมีการพูดคุยถึงกำหนดคลอด จนทำให้มีคนสงสัยว่าสาวก้อยนั้นจะท้องก่อนแต่งหรือเปล่า งานนี้ก้อยขอชี้แจงกลางงานแถลงข่าวสเก็ตเชอร์สแบล็คไลท์รันไทยแลนด์ 2016 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ว่า
"ไม่จริงเลยค่ะยังไม่ได้ท้องก้อยเพิ่งทราบข่าวพอได้อ่านแล้วก็ค่อนข้างขำ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าความจริงเป็นอะไร ก้อยเองก็มานั่งระลึกนะว่าเราไปลองชุดแต่งงานตอนไหน มี แต่มันเป็นการลองชุดในละครมีฉากใส่ชุดแต่งงานแล้วอีกอย่างก้อยกับพี่ตูน ก็ยังไม่ได้คุยกันเรื่องแต่งงานหรือมีแพลนจะไปลองชุดด้วยกันเลย ส่วนข่าวที่ว่ามีกำหนดคลอดปลายปีนี้ น่าจะเป็นพี่สะใภ้ก้อยมากกว่า เอาอย่างนี้ไม่มีการไปลองชุดแต่งที่เป็นอะไรส่วนตัวเกิดขึ้น ถ้าเกิดคนได้เห็นภาพอะไรก็แล้วแต่ มันเกิดจากที่เราไปถ่ายละครเท่านั้นเอง ซึ่งก้อยมั่นใจว่าคนในร้านต้องรู้ว่าอันนี้คือการถ่ายละครเนื่องจากมีทีมงานเต็มไปหมด ยอมรับว่าพอมีข่าวออกมาก็มีคนเข้ามาถามเยอะมาก ส่วนพี่ตูนว่าเขาก็ไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่ เพราะเราเป็นผู้หญิง เราไม่รู้ว่าที่มาที่ไปของข่าวมาจากไหน ถ้าให้มองเป็นเรื่องขำมันก็ขำเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง แต่คุณพ่อคุณแม่มาอ่านเจอเขาจะรู้สึกอย่างไร ก้อยว่าต้นตอไลน์แชต น่าจะเรียนจบการเขียนบทอะไรแบบนี้มา เพราะสามารถบรรยายทุกอย่างได้เป็นฉาก ๆ อ่านแล้วเราก็รู้ว่าอาจจะเป็นการสร้างขึ้นมา หรือถ้าคนนั้นเข้าใจว่าเป็นก้อยจริง ๆ ก้อยก็ขอโทษและขอบอกตรงนี้ว่ามันไม่ใช่เรา ก้อยกับพี่ตูนก็ยังอยู่ในจุดที่ยังเหมือนเดิม ยังไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ที่จะตอบได้ ถ้ามันถึงเวลาจริง ๆ ทุกคนก็คงจะได้ทราบไม่มีปกปิดไม่มีฟ้าแลบแน่นอนค่ะจริง ๆ ข่าวลือว่าท้องก้อยก็ไม่ซีเรียสหรอกเพราะเรารู้ว่าเราไม่ได้ท้อง แต่ก็คนอ่านข่าวมีสองประเภทนะคนที่เสพข่าว บันเทิงเพื่อความสนุก เขาอาจไม่สนใจว่ามันจะจริงหรือไม่จริง แต่สำหรับคนที่อ่านแล้วเชื่อมันต้องกระทบอยู่แล้ว ส่วนภาพที่ทุกคนเห็นว่ามีการผูกข้อมือ อันนี้ก้อยว่าเขาก็เป็นการโยงกันไปอันนี้ก้อยกับพี่ตูนไปถวายหอระฆังที่จังหวัดบุรีรัมย์ ทีนี้คนอีสานจะมีพิธีผูกข้อไม้ข้อมือทำบายศรีสู่ขวัญให้เรา ซึ่งเขาก็มาทำให้ คนก็มาแซวเราว่าเหมือนเป็นพิธีหมั้นหมาย แต่อย่างที่บอกว่ามันไม่ใช่ค่ะเพราะคุณพ่อคุณแม่เองก็ยังไม่ทราบก้อยว่าอะไรที่มันไม่จริงมันก็เป็นกระแสที่มาเร็วและไปเร็วก็คิดว่าคงไม่บอกท่านดีกว่าเดี๋ยวพ่อตกใจถ้าเขาทราบก็ คงไม่เครียดหรอกค่ะเพราะเขารู้อยู่แล้วเขาอยู่กับลูกสาวเขาทุกวันถ้าเรามีอะไรเปลี่ยนแปลงถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจริง ๆ คนที่ต้องรู้เป็นคนแรกคือคุณพ่อคุณแม่อยู่แล้วค่ะ”.