"ดีเจเผือก" หลงเสน่ห์วายร้าย "โจ๊กเกอร์" คุณค่าอยู่ที่สะสมความทรงจำ


หากพูดถึงหนุ่มพงศธรจงวิลาสหรือดีเจเผือกแห่งคลื่น 94 อีเอฟเอ็มใครที่ติดตามเขาจะรู้ว่าดีเจเผือกนั้นเป็นพวกคลั่ง "โจ๊กเกอร์" จอมวายร้ายและคู่ปรับตลอดกาลของแบทแมนมาก ๆ

หากพูดถึงหนุ่มพงศธรจงวิลาสหรือดีเจเผือกแห่งคลื่น 94 อีเอฟเอ็ม ใครที่ติดตามเขาจะรู้ว่าดีเจเผือกนั้นเป็นพวกคลั่ง "โจ๊กเกอร์" จอมวายร้ายและคู่ปรับตลอดกาลของแบทแมนมาก ๆ มีของสะสมแทบทุกชนิดวันนี้ "สตาร์เทรนดี้" เลยขอไปค้นตู้สะสมพร้อมพูดคุยกับดีเจเผือกถึงความชอบนี้ ใครพร้อมดำดิ่งสู่โลกแห่งโจ๊กเกอร์แล้ว มาลุยกันเลย

เริ่มปิ๊ง "โจ๊กเกอร์" เพราะชอบเชียร์ตัวร้าย

         “จุดเริ่มต้นชอบโจ๊กเกอร์เริ่มจากเด็ก ๆ ดูการ์ตูนก็ชอบเชียร์ตัวร้ายรู้สึกเท่ และก็ชอบนักมวยปล้ำคนนึงเป็นฝั่งอธรรม เขาแต่งตัวเป็นตัวตลกแต่เพนท์หน้ายิ้ม ออกมาสู้ทีเด็กก็ร้องไห้เลยเรารู้สึกคอนทราสต์ดี ตั้งแต่นั้นมาเวลาดูการ์ตูนหรือเล่นเกมก็จะชอบคาแรกเตอร์ตัวตลกแต่เป็นตัวร้าย จนชั้นประถมได้ดู "แบทแมน" ภาคแรกที่กำกับโดยทิมเบอร์ตันตอนเด็กเราดูก็ไม่รู้เรื่องหรอกรู้แต่ว่ามีโจ๊กเกอร์ที่แสดงโดยแจ็คนิโคลสันก็รู้สึกโอ้โห! เท่จังเลย พอเริ่มโตเรายิ่งรู้จักตัวโจ๊กเกอร์มากขึ้นและสะสมความชอบเรื่อยมา จนมาพีคสุดตอนที่คริสโตเฟอร์โนแลนมากำกับ "แบทแมนบีกินส์" ภาคนั้นยังไม่มีโจ๊กเกอร์ แต่ตอนท้ายเรื่องมีทีเซอร์ภาคต่อ ที่ผู้หมวดกอร์ดอนเอาหลักฐานมาให้แบทแมนดู ซึ่งเปิดออกมาเป็นไพ่โจ๊กเกอร์ใบนึง จังหวะนั้นเรารู้สึกขวัญใจเรามาแล้ว พอภาค "เดอะดาร์คไนท์" ที่ฮี ธ เลดเจอร์แสดงเป็นโจ๊กเกอร์เราก็ไปดู คือไม่ว่าคุณจะชอบแบทแมนและโจ๊กเกอร์หรือไม่ แต่เรื่องนี้ทุกคนต้องทึ่งกับการแสดงของฮีธ ตอนดูหนังจบผมนี่อยากลุกขึ้นตบมือกลางโรงหนังเลยครับ”

เสน่ห์ "โจ๊กเกอร์" อยู่ที่ความลึกของอารมณ์

         "เสน่ห์โจ๊กเกอร์อย่างนึงคือเขาเท่ตัวร้ายอื่นอาจฆ่าคนก่อความเดือดร้อนมันเป็นความชั่วร้ายตื้น ๆ ยิ่งเป็นเวอร์ชั่นโนแลนกำกับเขาทำออกมาในรูปแบบเรียลลิสติกบอกว่าทำไมโจ๊กเกอร์ถึงคิดแบบนี้ ทำให้เรารู้สึกตัวละครนี้ลึก เขาออกมาปั่นป่วนเมืองไม่ใช่แค่แบบทำให้วุ่นวาย มันมีการเทสต์คนในสิ่งที่เขาทำบางทีโจ๊กเกอร์ไม่ได้ทำเอง แต่ลองใจคนที่บอกว่าตัวเองเป็นคนดี ซึ่งพอถึงสถานการณ์ที่ต้องเอาชีวิตรอด คุณยังเป็นคนดีอยู่รึเปล่าส่วนรูปลักษณ์ภายนอก ผมชอบความคอนทราสต์คือหน้ายิ้มแต่ข้างในไม่ใช่ มันยิ่งเท่ครับ "

รู้สึกเหมือน "โจ๊กเกอร์" ที่ดูยิ้มแย้ม แต่ข้างในจริงจัง

         "มีคนบอกว่าผมหน้าเหมือนโจ๊กเกอร์ แต่ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองหน้าเหมือนนะ (หัวเราะ) จริง ๆ บางคนดูภายนอกอาจคิดว่าผมเป็นคนเฮฮา มีรอยยิ้มตลอดเวลา แต่ถ้าใครได้รู้จักจริง ๆ จะรู้ว่าผมเป็นคนที่มีความจริงจังมาก คนที่ไม่สนิทได้มาเจอตัวจริงแรก ๆ จะบอกว่าทำไมเราดูเงียบ คือข้างในผมซีเรียสมากกว่าที่ทุกคนคิด ส่วนความต่างคือผมก็คงไม่ทำชั่วได้ขนาดนั้นครับ (ยิ้ม) "

เริ่มสะสมจาก "โจ๊กเกอร์" ฝาแชมพู

         "จริง ๆ ผมไม่มีความคิดว่าเรามาเริ่มสะสมเถอะ แต่มันเริ่มจากเหตุการณ์ง่าย ๆ คือเดินตลาดนัดแล้วเจอของที่วางขายแบกับดิน เป็นขวดใส่แชมพูที่ฝาเป็นหน้าโจ๊กเกอร์ ราคาแค่ 40 บาทเองเราก็ซื้อมาแล้วเอาแต่ฝาไว้ ตอนที่ซื้อยังตัดสินใจอยู่เลยว่าจะเอาดีมั้ย จะได้เอาไปทำอะไรรึเปล่า แต่พอมันเริ่มมีหนึ่งชิ้นต่อมาก็เริ่มพอกพูนเรื่อย ๆ จนเริ่มเก็บจริงจังถึงตอนนี้ก็สะสมมาได้ 6-7 ปีแล้วครับ "

"โจ๊กเกอร์" ตัวโปรดออกแบบโดย "รอนอิงลิช"

         “ชิ้นที่ชอบที่สุดเป็นตัวแมคโดนัลด์ ซึ่งศิลปินที่ผมชอบคือรอนอิงลิชเป็นคนออกแบบพอเราเก็บพวกฟิกเกอร์มาก ๆ เราก็เริ่มเก็บของแปลกเช่นนาฬิการุ่นที่ทำเป็นโจ๊กเกอร์, รองเท้า, พวกเซรามิกต่าง ๆ ที่ไม่ใช่โมเดลปกติจนได้มา รู้จักดีไซเนอร์ทรอย ซึ่งเราจะชื่นชอบคอนเซปต์การทำของเล่นเขามาก กระทั่งเขาออกแบบรุ่น "ทอยโตเกียวแมคซูเปอร์ไซซ์เคลียร์โจ๊กเกอร์เวอร์ชั่น" จริง ๆ รอนโด่งดังจากการออกแบบคาแรกเตอร์แมคโดนัลด์อ้วนอยู่แล้ว วันนึงเขาออกแบบคอลเลกชั่นพิเศษที่เป็นโจ๊กเกอร์นี้ เราก็รู้สึกว่าโอ้โห! คนที่เราชอบมากทำตัวที่เราชอบยังไงต้องมีซึ่งตัวนี้เราได้จากในเว็บไซต์เพราะเขาทำออกมาหมดแล้วหมดเลย อยู่ที่ความไวว่าวันที่จำหน่ายเราหาเว็บที่ขายและซื้อทันรึเปล่า ตัวนี้ก็ได้มาจากเว็บคนสะสมของสิงคโปร์ครับ”

ฟินหนักมาก "รอน" วาด "โจ๊กเกอร์" ให้สุดพิเศษ

         "ที่พิเศษคือวันที่ผมได้เจอรอนอิงลิช ซึ่งเขามางานแสดงของเล่นที่เมืองไทย เราก็หอบตัวที่เขาออกแบบนี้ไปให้เซ็น ซึ่งเราบอกให้เขาเซ็นตรงห่อพลาสติกก็พอ เพราะศิลปินบางคนไม่อยากเซ็นของถ้าเซ็นปุ๊บมูลค่าเพิ่มมหาศาล แต่เขาน่ารักมากและคงดูออกมาว่าเราบ้าจริง (หัวเราะ) เขาค่อย ๆ แกะพลาสติกและเซ็นที่ตัวโจ๊กเกอร์ให้ด้วย ตอนนั้นผมฟินเลย วันนั้นเราเอาหนังสือรวมผลงานเขาไปให้เขาเซ็นด้วย รู้สึกเหมือนติ่งได้เจอไอดอล (ยิ้ม) ก็มีโอกาสได้บอกเขาว่าเขาเป็นศิลปินในดวงใจ ซึ่งวันนั้นรอนเอากระดาษมาวาดรูปตัวตลกหันข้าง แล้วก็ยิ้มสไตล์เขาฟันเป็นกะโหลกเป็นกระดาษธรรมดาวาดด้วยดินสอ แต่เป็นของที่มันประเมินค่าไม่ได้ชิ้นเดียวในโลกที่เขาวาดให้เราซึ่งผมรู้สึกว่ามันทรงคุณค่ามากมีตังค์ก็หาไม่ได้ได้มาน้ำตาจะ ไหลครับ "

"โจ๊กเกอร์" เวอร์ชั่นสาวญี่ปุ่นคู่แท้ที่รอนานกว่า 7 ปี

         "ตัวที่หายากจริง ๆ มีหลายตัว อย่างที่เป็นฟิกเกอร์ผู้หญิงญี่ปุ่นสาวโมเอะ แต่งตัวแบบโจ๊กเกอร์ตั้งแต่ผมเริ่มเก็บเมื่อ 6-7 ปี ผมเห็นตัวนี้นานแล้วแต่มันหายากและราคาเรายังไม่ไหว นี่เพิ่งได้ไม่ถึงเดือนเองที่เราอยากได้ตัวนี้เพราะมันแปลกซึ่งที่ผ่านมาตัวเป็นหมื่นกว่าตลอด เราก็รอจนเจอคนที่ขายในอีเบย์ในราคาที่เหมาะสม เรียกว่าใช้เวลารอนานจริง ๆ กว่าจะได้เป็นคู่แท้ครับ (ยิ้ม) จริง ๆ ของพวกนี้ยิ่งนานราคายิ่งขึ้นแต่ตัวนี้ถือว่าโชคดีที่เจอคนที่ปล่อยแบบไม่เอากำไรมาก ซึ่งมันยากครับส่วนอีกตัวที่หายาก คือตัวโจ๊กเกอร์ที่ออกแบบเป็นตุ๊กตาชักใย อันนี้ก็รอนานเกือบ 7 ปีเหมือนกันมันมีแค่ 777 ตัวทั่วโลกเป็นของเก่า ตัวนี้ถ้าเราขยับแกนด้านบนตัวโจ๊กเกอร์นี้ก็จะขยับได้ด้วย ความยากตัวนี้อยู่ที่คนมักขายเป็นเซต มีแบทแมนโจ๊กเกอร์และฮาร์เลย์ควินซ์แฟนโจ๊กเกอร์ แต่เราไม่เก็บตัวอื่นและราคาสูง เราเลยรอจนได้มาเจอเนื้อคู่คนที่ขายแยกเดี่ยว บวกกับราคาที่ต่อรองได้สุดท้ายได้มาจากอีเบย์ "

หน้ากากฉากเปิด "เดอะดาร์คไนท์"

         "ถ้าใครดูภาค" เดอะดาร์คไนท์ " จะเห็นโจ๊กเกอร์ใส่หน้ากากอันนี้ไปปล้นแบงก์ ซึ่งเป็นฉากแรกเริ่มต้นหนังเลย ผมว่ามันเป็นฉากที่ดีที่สุดของหนังเท่าที่ผมเคยดูมา ทั้งวิธีการเล่าเรื่องที่เขาปฏิบัติการปล้นที่ทำให้เห็นว่าโจ๊กเกอร์โหดเหี้ยมแค่ไหน มันเป็น 10 นาทีแรกที่ทรงพลังมากและนี่ก็เป็นหน้ากากที่จำลองมาซึ่งเราก็เคยเอาใส่ไปงานใส่ถ่ายรูปเล่นอยู่บ้านก็มีครับ (ยิ้ม) "

กะโหลกดีไซน์แบบโจ๊กเกอร์มีหูแบทแมน สุดสะพรึง

       “พอผมเก็บพวกโมเดลเยอะมันก็เริ่มเบื่อ หลัง ๆ เลยหาอะไรที่แปลกขึ้นที่พิเศษและพอเริ่มหาข้อมูลศิลปินที่ออกแบบเราก็เริ่มมองเป็นงานศิลปะอยากได้งานอาร์ต อย่างหัวกะโหลกที่ดีไซน์เป็นโจ๊กเกอร์ผสมหูแบทแมนชิ้นนี้พีคสุดเลย เป็นของศิลปินชาวออสเตรียชื่อแจ็คออฟเดอะดัสท์เขาเป็นคนที่หลงใหลรูปทรงกะโหลกมากผลงานเขาเป็นกะโหลกทั้งหมดตอนแรกที่เห็นคิดว่าเป็นกะโหลกจริง (ยิ้ม) แต่ไม่ใช่จำลองขึ้นมาซึ่งเหมือนมากจริง ๆ ด้วยความที่ราคางานอาร์ตพวกนี้สูงเราเลยเลือกตัวที่จี๊ดสุด เพราะอยากได้ตัวที่ครบไม่ต้องไปซื้อเพิ่ม อีกอย่างยิ่งแปลกเรายิ่งชอบครับ "

"หมีแบร์บริคโจ๊กเกอร์" ได้มาสด ๆ ร้อน ๆ

         “ตัวล่าสุดที่ผมได้มาเลยคือหมีแบร์บริค เวอร์ชั่นโจ๊กเกอร์ก็เท่ดีครับมันเพิ่งเข้าเมืองไทยได้ไม่นานโชคดีที่เพื่อนขาย ซึ่งเขารู้ว่าอะไรเกี่ยวกับโจ๊กเกอร์เราก็เอาหมด ตัวที่ไ​​ด้เป็นขนาด 100 และ 400 เปอร์เซ็นต์ "

เลือกสะสมที่ชอบไม่เน้นของแพง

         "หลักในการเลือกสะสมของผมอย่างแรกเลยคือความชอบและดูว่าตัวนี้ศิลปินคนไหนออกแบบในส่วนของราคาแรก ๆ ที่เริ่มเก็บเรายังไม่มีรายได้มากยังเป็นพนักงานออฟฟิศอยู่ ก็จะออกกฎกับตัวเองว่าถ้าแพงคือไม่เอา เอาเท่าที่ได้เพราะการสะสมไม่ควรทำให้เราอดข้าวต้องไม่สร้างความเดือดร้อนบางทีผมไปเดินตลาดคลองถมดูก็รู้ว่าของปลอมเราก็เอานะไม่ได้สนใจว่าของจริงรึเปล่ายิ่งเจอของปลอมแปลก ๆ ผมว่า มันคือเสน่ห์ครับ "

การสะสม "โจ๊กเกอร์" คือความทรงจำ

         “ผมว่ามันเป็นโรคจิตนะสำหรับคนที่ชอบสะสมอะไร (ยิ้ม) ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่กลับบ้านมายืนดูตู้ที่ใส่ของสะสมเรา ตัวนี้ล้มก็หยิบขึ้นมาตั้งใหม่ถ่ายรูปบ้างมันมีความสุขและก็นั่งนึกว่าตัวนี้ได้มาจากไหนใครซื้อมาฝากหลัง ๆ มีคนซื้อมาฝากเยอะ ซึ่งผมดีใจมากที่เขาเห็นแล้วนึกถึงเรา ผมชอบยืนคิดตัวนี้มาริโอ้ซื้อมาฝากนะตัวนี้เต๋อ - ฉันทวิชช์ซื้อมาให้ และเวลาเราเจออะไรที่รู้โอ้หรือเต๋อชอบเราก็ซื้อฝากเหมือนกัน เงินไม่ต้องทีใครทีมันช่วยกันมองหาความสุขครับ เวลามายืนมองตู้เก็บสะสมมันก็มีความทรงจำ และมันก็ประดับบ้านได้ด้วยถ้าคู่ชีวิตเข้าใจนะ ของบางอย่างที่น้องลูกจ๋า (แฟนสาว) กลัวเราก็ไม่เอาเช่นโจ๊กเกอร์ขนาดเท่าคนจริงคือเราต้องถามคนข้างตัวด้วย (ยิ้ม) "

ฝากเก็บอยากมีคุณค่า

         "ยุคนี้กระแสสะสมกำลังนิยมมากบางทีเราเก็บเพราะเห็นคนอื่นเก็บ ซึ่งไม่ผิดแต่อย่างแรกเลยการสะสมต้องไม่ทำให้เดือดร้อน เก็บเท่าที่เรายังมีตังค์ไปใช้ชีวิตอย่างอื่นได้ ถ้าเริ่มแบบนี้ก็จะสะสมอย่างมีความสุข และนักสะสมต้องมีคอลเลกชั่นของตัวเอง อย่างผมเก็บแต่โจ๊กเกอร์เพราะเราชอบเขามาก ยิ่งบางคนมีความผูกพันกับของที่เก็บ เช่นชอบมา แต่เด็กหรือหน้าเหมือน มันก็ทำให้คอลเลกชั่นเรามีคุณค่าครับ”

         เรียกว่าเป็นแนวคิดความสุขจากการสะสมอย่างแท้จริง

Share this

Related Posts

Previous
Next Post »